ขุททกนิกายภาค ๑
เอกนิบาต
๑๒. หังสิวรรค
ทุพพจชาดก
ได้รับโทษเพราะทำเกินไป
พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภภิกษุผู้ว่ายากรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.
เรื่องของภิกษุนั้น จักแจ่มแจ้งใน คิชฌชาดก นวกนิบาต (แต่ในชาดกนี้) พระศาสดาตรัสเรียกภิกษุนั้นมาตรัสว่า “ดูก่อนภิกษุ มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น ที่เธอเป็นผู้ว่ายาก แม้ในกาลก่อน ก็เป็นผู้ว่ายาก เพราะความที่เป็นผู้ว่ายาก ไม่กระทำตามโอวาทแห่งบัณฑิต จึงถูกหอกแทงถึงสิ้นชีวิต” ดังนี้แล้วทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :
ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ใน พระนครพาราณสี พระโพธิสัตว์ถือปฏิสนธิในกำเนิดนักแสดงกายกรรม เกี่ยวกับกระโดด เจริญวัยแล้ว ได้เป็นผู้มีปัญญา ฉลาดในอุบาย ท่านศึกษาศิลปะในการกระโดดข้ามหอก ในสำนักแห่งนักโดดผู้หนึ่ง เที่ยวแสดงศิลปะไปกับอาจารย์ แต่อาจารย์ของท่านรู้ศิลปะในการโดดข้ามหอกเพียงสี่เล่มเท่านั้น ไม่ได้ถึง ๕ เล่ม วันหนึ่ง อาจารย์แสดงศิลปะในหมู่บ้านตำบลหนึ่ง เมาเหล้าแล้วพูดว่า “เราจักโดดข้ามหอก ๕ เล่ม ปักหอกเรียงรายไว้” ครั้งนั้นพระโพธิสัตว์จึงกล่าวกะอาจารย์ว่า “ท่านอาจารย์ครับ ท่านไม่ทราบศิลปะการโดดข้ามหอก ๕ เล่ม เอาหอกออกเสียเล่มหนึ่งเถิดครับ ถ้าท่านขึ้นโดดจักถูกหอกเล่มที่ ๕ แทงตายแน่นอน” แต่เพราะเมาสุรา อาจารย์จึงกล่าวว่า “ถึงตัวเจ้าก็หารู้ขีดความสามารถของเราไม่” มิได้ยึดถือถ้อยคำของพระโพธิสัตว์ โดดข้ามไปได้ ๔ เล่ม ถูกเล่มที่ ๕ เสียบเหมือนคนเสียบดอกมะทรางในไม้กลัดฉะนั้น นอนคร่ำครวญอยู่ ครั้งนั้นพระโพธิสัตว์กล่าวกะท่านอาจารย์ว่า “ท่านไม่เชื่อคำของบัณฑิต จึงถึงความฉิบหายดังนี้”
พระโพธิสัตว์ครั้นกล่าวคำนี้แล้ว ก็นำอาจารย์ออกจากหอก กระทำกิจที่ควรทำให้แล้ว พระศาสดาทรงนำอดีตนิทานนี้มาแสดงแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า
อาจารย์ในครั้งนั้นได้มาเป็นภิกษุผู้ว่ายากนี้
ส่วนอันเตวาสิก ได้มาเป็นเราตถาคต ฉะนี้แล.
จบ ทุพพจชาดก