Thai Chinese (Traditional) English French Italian Portuguese Russian
พระพุทธศักดิ์สิทธิ์ วัดโพรงจระเข้
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
สืบทอดพระพุทธศาสนา
นำทางสู่การพ้นทุกข์

 

ขุททกนิกายภาค ๑

เอกนิบาต

๑๐. ลิตตวรรค

นามสิทธิชาดก

ว่าด้วยชื่อไม่เป็นของสำคัญ

พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภภิกษุผู้หวังความสำเร็จโดยชื่อ รูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ดังนี้.

ได้ยินว่า กุลบุตรผู้หนึ่งชื่อว่า ปาปกะ บวชถวายชีวิตในพระศาสนา เมื่อถูกพวกภิกษุเรียกว่า มาเถิด อาวุโสปาปกะ หยุดเถิดอาวุโสปาปกะ ก็คิดว่า ในโลกผู้ที่มีชื่อว่า ปาปกะ เขากล่าวกันว่า ลามก เป็นตัวกาฬกรรณี เราต้องให้พระอุปัชฌาย์อาจารย์หาชื่อที่ประกอบไปด้วยมงคลอย่างอื่น เธอจึงเข้าไปหาอุปัชฌาย์อาจารย์กราบเรียนว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ชื่อของผมเป็นอัปมงคล กรุณาตั้งชื่ออย่างอื่นให้กระผมเถิด ครั้งนั้นอาจารย์และอุปัชฌาย์ ก็กล่าวกะเธออย่างนี้ว่า ชื่อเป็นเพียงบัญญัติสำหรับเรียกกัน ขึ้นชื่อว่าความสำเร็จประโยชน์ไร ๆ มิได้มีเพราะชื่อเลย เธอจงพอใจชื่อของตนนั้นเถิด เธอคงยังอ้อนวอนอยู่ร่ำไป

ความที่เธอมุ่งความสำเร็จโดยชื่อนี้ เกิดแพร่หลายกระจายไปในสงฆ์ อยู่มาวันหนึ่ง ภิกษุทั้งหลายนั่งประชุมกันในธรรมสภา ตั้งเรื่องสนทนากันว่า ท่านผู้มีอายุทั้งหลาย ได้ยินว่า ภิกษุโน้น มุ่งความสำเร็จโดยชื่อ ขอให้ช่วยหาชื่อที่เป็นมงคลให้ พระบรมศาสดาเสด็จมาสู่ธรรมสภา ตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอประชุมสนทนากันด้วยเรื่องอะไร เมื่อภิกษุทั้งหลายกราบทูลให้ทรงทราบแล้ว ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น แม้ในกาลก่อน เธอก็มุ่งความสำเร็จเพราะชื่อเหมือนกัน แล้วทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :

ในอดีตกาล พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นอาจารย์ทิศาปาโมกข์ บอกมนต์กะมาณพ ๕๐๐ ในพระนครตักกสิลา มาณพผู้หนึ่งของท่าน ชื่อ ปาปกะ ถูกเขาเรียกอยู่ว่า มาเถิด ปาปกะ ไปเถิดปาปกะ คิดว่า ชื่อของเราเป็นอัปมงคล ต้องขอให้อาจารย์ตั้งชื่ออื่นให้ใหม่ เขาไปหาอาจารย์เรียนว่า ท่านอาจารย์ขอรับ ชื่อของกระผมเป็นอัปมงคล โปรดตั้งชื่ออย่างอื่นให้เถิดขอรับ

ครั้งนั้นอาจารย์ได้กล่าวกะเขาว่า ไปเถิดพ่อ เจ้าจงเที่ยวไปตามชนบทแล้ว กำหนดเอาชื่อที่เป็นมงคลชื่อหนึ่งที่ตนชอบใจอย่างยิ่งแล้วมา เราจักเปลี่ยนชื่อของเจ้าเป็นชื่ออย่างอื่น เขารับคำว่า ดีแล้ว ขอรับ ถือเอาเสบียงออกเดินทางไป ท่องเที่ยวไปตามคามนิคมชนบทลุถึงนครแห่งหนึ่ง ในพระนครนั้นแหละ มีบุรุษผู้หนึ่ง ชื่อว่า ชีวกะ (บุญรอด) ตายลง เห็นหมู่ญาติกำลังหามเขาไปสู่ป่าช้า จึงถามว่า ชายผู้นี้ชื่ออะไร หมู่ญาติตอบว่า จะชื่อว่า ชีวกะ(บุญรอด) ก็ดี อชีวก (ไม่รอดก็ดี) ก็ตายทั้งนั้น ชื่อเป็นเพียงบัญญัติสำหรับเรียกกัน เจ้านี่ เห็นจะโง่ กระมัง

เขาฟังคำนั้นแล้ว จึงเกิดมีความรู้สึกเฉย ๆ ในเรื่องชื่อ แล้วเดินทางกลับเข้าเมืองของตน ครั้งนั้น พวกนายทุนกำลังจับนางทาสีผู้หนึ่งซึ่งไม่จ่ายดอกเบี้ยให้นั่งที่ประตูแล้วเฆี่ยนด้วยเชือก และนางทาสีผู้นั้นก็มีชื่อว่า ธนปาลี (คนมีทรัพย์) เขาเดินเรื่อยไปตามท้องถนน เห็นนางถูกเฆี่ยน เมื่อถามก็ได้รับคำตอบว่า มันไม่ยอมให้ดอกเบี้ย

เขาถามว่า ก็นางมีชื่ออย่างไรเล่า

พวกนายทุนตอบว่า นางชื่อ ธนปาลี (คนมีทรัพย์)

เขาถามว่า แม้จะมีชื่อ ธนปาลี โดยนาม ก็ยังไม่อาจให้เงินแค่ดอกเบี้ยหรือ

พวกนายทุนตอบว่า จะชื่อธนปาลี คนรวยก็ดี จะชื่อ อธนปาลี คนจนก็ดี เป็นคนเข็ญใจได้ทั้งนั้น ชื่อเป็นเพียงบัญญัติสำหรับเรียกกัน เจ้านี่เห็นจะโง่แน่

เขาก็ยิ่งรู้สึกเฉย ๆ ในเรื่องชื่อยิ่งขึ้น จึงเดินออกจากเมืองไปตามทาง ในระหว่างทางพบคนหลงทาง ถามว่า ผู้เป็นเจ้าเที่ยวทำอะไรอยู่เล่า

เขาตอบว่า ข้าพเจ้าหลงทางเสียแล้ว

เขาย้อนถามว่า ก็คุณชื่อไรเล่า

เขาตอบว่า ข้าพเจ้าชื่อ ปันถกะ (ผู้เจนทาง)

เขาถามว่า ขนาดชื่อปันถกะ ยังหลงทางอีกหรือ

คนหลงทาง กล่าวว่า จะชื่อปันถกะ (ชำนาญทาง) หรือชื่ออปันถกะ (ไม่ ชำนาญทาง) ก็มีโอกาสหลงทางได้เท่ากัน ชื่อเป็นบัญญัติสำหรับเรียกกัน ก็ท่านเองเห็นจะโง่แน่

เขาเลยวางเฉยในเรื่องชื่อ ไปสู่สำนักของพระโพธิสัตว์ ครั้นพระโพธิสัตว์ถามว่า อย่างไรเล่า พ่อคุณ เจ้าได้ชื่อที่ถูกใจมาแล้วหรือ ก็เรียนท่านว่า ท่านอาจารย์ขอรับ ธรรมดาคนเราถึงจะชื่อว่าชีวก แม้จะชื่อ อชีวก คงตายเท่ากัน ถึงจะชื่อ ธนปาลี แม้จะชื่อ อธนปาลี ก็เป็นทุคคตะได้ทั้งนั้น ถึงจะชื่อปันถกะ แม้จะชื่ออปันถกะ ก็หลงทางได้เหมือนกัน ชื่อเป็นเพียงบัญญัติสำหรับเรียกกัน ความสำเร็จเพราะชื่อมิได้มีเลย ความสำเร็จมีได้เพราะการกระทำเท่านั้น พอกันทีเรื่องชื่อสำหรับกระผม กระผมขอใช้ชื่อเดิมนั่นแหละต่อไป

พระบรมศาสดา ทรงนำอดีตนิทานนี้มาแล้ว ตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มิใช่แต่ในบัดนี้เท่านั้น แม้ในปางก่อน เธอก็มุ่งความสำเร็จเพราะชื่อมาแล้วเหมือนกัน แล้วทรงประชุมชาดกว่า

มาณพผู้มุ่งความสำเร็จเพราะชื่อในครั้งนั้น ได้มาเป็น ภิกษุผู้มุ่งความสำเร็จเพราะชื่อในบัดนี้

บริษัทของอาจารย์ ได้มาเป็นพุทธบริษัท

ส่วนอาจารย์ได้มาเป็นเราตถาคต ฉะนี้แล.

จบ นามสิทธิชาดก

อรรถกถาชาดกพระเจ้า 547 พระชาติ

เชิญร่วมบุญ