พระพุทธศักดิ์สิทธิ์ วัดโพรงจระเข้
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
สืบทอดพระพุทธศาสนา
นำทางสู่การพ้นทุกข์

 

ขุททกนิกายภาค ๑

เอกนิบาต

๑๐. ลิตตวรรค

วิสสาสโภชนชาดก

ว่าด้วยการไว้วางใจ

พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภการบริโภคด้วยความวางใจ ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.

ความย่อว่า ในสมัยนั้น พวกภิกษุโดยมากพากันวางใจ ไม่พิจารณาบริโภคปัจจัย ๔ ที่หมู่ญาติถวาย เพราะคิดเสียว่า มารดาของพวกเราถวาย บิดาของพวกเราถวาย พี่ชายน้องชาย พี่สาวน้องสาว น้า อา ลุง ป้า ถวาย คนเหล่านี้สมควรจะให้แก่เรา แม้ในเวลาเป็นคฤหัสถ์มาแล้ว ถึงในเวลาเราเป็นภิกษุก็คงเป็นผู้สมควรจะให้ได้

พระศาสดาทรงทราบเหตุนั้น ทรงพระดำริว่า สมควรที่เราจะแสดงพระธรรมเทศนาแก่ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้แล้วรับสั่งให้เรียกประชุมภิกษุ แล้วตรัสว่า “ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย ธรรมดาภิกษุต้องพิจารณาแล้วจึงค่อยทำการบริโภคปัจจัย ๔ แม้ที่พวกญาติพากันถวาย ด้วยว่าพวกภิกษุที่ไม่พิจารณาแล้วบริโภค เมื่อทำกาละย่อมไม่พ้นจากอัตภาพแห่งยักษ์และเปรต ขึ้นชื่อว่าการบริโภคปัจจัย ๔ ที่ไม่พิจารณานี้ เป็นเช่นกับการบริโภคยาพิษ แม้ที่คนคุ้นเคยกันให้แล้วก็ตาม แม้ที่คนไม่คุ้นกันให้แล้วก็ตาม ย่อมทำให้ตายได้ทั้งนั้น แม้ในครั้งก่อนสัตว์ทั้งหลายบริโภคยาพิษที่เขาให้ด้วยความพิศวาส ถึงความสิ้นชีวิตไปแล้ว” เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลอาราธนา จึงทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :

ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์ได้เป็นเศรษฐีมีสมบัติมาก คนเลี้ยงโคของท่านคนหนึ่ง ต้อนฝูงโคเข้าป่า ในสมัยที่พืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์ ตั้งคอกเลี้ยงโคอยู่ในป่านั้น และนำน้ำนมโคมาให้ท่านเศรษฐีตามเวลา

ในที่ไม่ห่างคนเลี้ยงโคนั้น มีราชสีห์อาศัยอยู่ พวกโคต่างก็ซูบผอมไปเพราะหวาดหวั่นต่อราชสีห์นั้น น้ำนมของโคเหล่านั้นจึงใส อยู่มาวันหนึ่งคนเลี้ยงโคนำเอานมมาให้ ท่านเศรษฐีจึงถามว่า

“สหายโคบาล เป็นอย่างไรหรือ น้ำนมจึงได้ใส”

เขาแจ้งเหตุนั้น ท่านเศรษฐีถามว่า “สหาย ก็ความปฏิพัทธ์ในอะไร ๆ ของราชสีห์นั้นมีบ้างไหม”  

เขาตอบว่า “มีครับนาย มันติดพันแม่เนื้อตัวหนึ่ง”

ท่านเศรษฐีถามว่า “แกสามารถจะจับแม่เนื้อนั้นได้ไหม” 

เขาตอบว่า “พอจะทำได้ครับนาย”

ท่านเศรษฐีกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นเจ้าจงจับมันให้ได้ เอายาพิษย้อมขนที่ตัว ตั้งแต่หน้าผากของมันขึ้นไปหลาย ๆ ครั้ง ทำให้แห้ง กักไว้สองสามวัน ค่อยปล่อยแม่เนื้อนั้นไป ราชสีห์นั้นจักเลียสรีระของแม่เนื้อนั้นด้วยเสน่หา ถึงความสิ้นชีวิตเป็นแน่ ทีนั้นเจ้าจงเอาหนังเล็บเขี้ยวและเนื้อของมันมาให้เรา แล้วมอบยาพิษอย่างแรงให้ส่งตัวไป”

คนเลี้ยงโค วางข่ายจับแม่เนื้อนั้นได้ด้วยอุบายแล้วได้กระทำตามสั่ง ราชสีห์เห็นแม่เนื้อนั้นแล้ว เลียสรีระของแม่เนื้อนั้นด้วยเสน่หาอย่างรุนแรง เมื่อพิษกำเริบก็ถึงแก่สิ้นชีวิต ฝ่ายคนเลี้ยงโค ก็เอาหนังเป็นต้น ไปสู่สำนักพระโพธิสัตว์.

พระโพธิสัตว์ทราบเหตุนั้นแล้ว กล่าวว่า “ขึ้นชื่อว่าเสน่หาในพวกอื่นไม่ควรกระทำ ราชสีห์ผู้เป็นมฤคราช ถึงจะสมบูรณ์ด้วยกำลังอย่างนี้ ก็เพราะอาศัยความติดพันด้วยอำนาจกิเลส เลียสรีระของแม่เนื้อ ทำการบริโภคยาพิษถึงสิ้นชีวิตไปแล้ว”

พระโพธิสัตว์แสดงธรรมแก่บริษัทที่มาประชุมกันด้วยประการฉะนี้ ทำบุญทั้งหลายมีให้ทานเป็นต้น แล้วไปตามยถากรรม.

พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแสดงแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า

มหาเศรษฐีในครั้งนั้นได้เป็นเราตถาคต ฉะนี้แล.

จบ วิสสาสโภชนชาดก

 

อรรถกถาชาดกพระเจ้า 547 พระชาติ

เชิญร่วมบุญ