ขุททกนิกายภาค ๑
เอกนิบาต
๗. อิตถีวรรค
วิสวันตชาดก
ตายเสียดีกว่าดูดพิษที่คายออกแล้ว
พระบรมศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภพระธรรมเสนาบดี ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.
ได้ยินว่าในคราวที่พวกมนุษย์พากันนำของเคี้ยวที่ทำด้วยแป้งเป็นจำนวนมากมาสู่วิหารเพื่อพระสงฆ์ ของที่เหลือจากที่ภิกษุสงฆ์รับเอาไว้ยังมีมาก พวกมนุษย์พากันพูดว่า พระคุณเจ้าทั้งหลายโปรดรับไว้เพื่อภิกษุที่ไปในหมู่บ้านด้วยเถิด ขณะนั้นภิกษุหนุ่ม สัทธิวิหาริกของพระเถระเจ้าไปในหมู่บ้าน พวกภิกษุจึงรับส่วนของเธอไว้ ครั้นเมื่อเธอยังไม่มา และพวกภิกษุเห็นว่าเป็นเวลาสายจัดแล้ว ก็ถวายแด่พระเถระเจ้า เมื่อพระสารีบุตรเถระขบฉันของเคี้ยวที่ทำด้วยแป้งนั้นแล้ว ภิกษุหนุ่มจึงไปถึง
ครั้งนั้นพระเถระกล่าวกะเธอว่า ผู้มีอายุ ฉันบริโภคของเคี้ยวที่เก็บไว้เพื่อเธอหมดแล้ว ภิกษุนั้นกล่าวว่า ข้าแต่พระคุณเจ้า ธรรมดาของอร่อยใครจะไม่ชอบเล่าขอรับ ความสลดใจเกิดขึ้นแก่พระมหาเถระเจ้า ท่านเลยอธิษฐานไว้ว่า ตั้งแต่บัดนี้ไป เราจักไม่ฉันของเคี้ยวที่ทำด้วยแป้ง ข่าวว่า ตั้งแต่บัดนั้นพระสารีบุตรเถระเจ้าไม่เคย ฉันของเคี้ยวทำด้วยแป้งเลย ความที่ท่านไม่ฉันของเคี้ยวทำด้วยแป้งเกิดแพร่หลายไปในหมู่ภิกษุ ภิกษุทั้งหลาย นั่งในธรรมสภา พูดกันถึงเรื่องนั้น
ครั้งนั้นพระบรมศาสดาเสด็จมา ตรัสถามว่า “ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอประชุมสนทนากันด้วยเรื่องอะไรเล่า” เมื่อภิกษุทั้งหลายกราบทูลให้ทรงทราบแล้ว ตรัสว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สารีบุตรแม้จะเสียชีวิตก็ไม่ยอมรับสิ่งที่ตนทิ้งเสียครั้งหนึ่งอีกทีเดียว” แล้วทรงนำเรื่องราวในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :
ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในกรุงพาราณสี พระโพธิสัตว์เกิดในตระกูลหมอรักษาพิษ เลี้ยงชีวิตด้วยเวชกรรม ครั้งนั้นงูกัดชาวชนบทคนหนึ่ง พวกญาติของเขาไม่ประมาท รีบนำมาหาหมอโดยเร็ว หมอถามว่า “จะพอกยาถอนพิษก่อน หรือจะให้เรียกงูตัวที่กัดมาแล้วให้มันดูดพิษออกจากแผลที่มันกัด” พวกญาติพากันกล่าวว่า “โปรดเรียกงูมาให้มันดูดพิษออกเถิด” หมอจึงเรียกงูมาแล้ว กล่าวว่า “เจ้ากัดคนผู้นี้หรือ”
งู “ใช่แล้ว เรากัด.”
หมอ “เจ้านั่นแหละจงเอาปากดูดพิษจากปากแผลที่เจ้ากัดแล้ว.”
งู “เราไม่เคยกลับดูดพิษที่เราทิ้งไปครั้งหนึ่งแล้วเลย เราจักไม่ยอมดูดพิษที่เราคายไปแล้ว”
หมอให้คนหาฟืนมาก่อไฟ พลางบังคับว่า “ถ้าเจ้าไม่ดูดคืนพิษของเจ้า ก็จงเข้าไปสู่กองไฟนี้เถิด” งูกล่าวตอบว่า “เราจะขอเข้ากองไฟ แต่ไม่ขอยอมดูดคืนซึ่งพิษที่ตนปล่อยไปแล้วครั้งหนึ่งเป็นอันขาด” ครั้นงูกล่าวอย่างนี้แล้ว ก็เลื้อยเข้าไปสู่กองไฟ ครั้งนั้น หมอจึงห้ามงูนั้นไว้ จัดแจงรักษาบุรุษนั้นให้หายพิษ ให้หายโรค ด้วยโอสถและมนต์ แล้วให้ศีลแก่งู กล่าวว่า “จำเดิม แต่นี้ไป เจ้าอย่าเบียดเบียนใคร ๆ” ดังนี้แล้วก็ปล่อยไป.
พระบรมศาสดาจึงตรัสว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สารีบุตร แม้จะต้องสละชีวิต ก็ไม่ยอมรับคืนสิ่งที่ตนทิ้งเสียแล้วครั้งหนึ่งเลย” ครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงสืบประชุมชาดกว่า
งูในครั้งนั้นได้มาเป็นพระสารีบุตร
ส่วนหมอได้มาเป็น เราตถาคต ฉะนี้แล.
จบ วิสวันตชาดก