ขุททกนิกายภาค ๑
เอกนิบาต
๗. อิตถีวรรค
สาเกตชาดก
ว่าด้วยวางใจคนที่ชอบใจ
พระศาสดาทรงอาศัยเมืองสาเกต ประทับ ณ พระวิหารอัญชนวัน ทรงปรารภพราหมณ์ผู้หนึ่งตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.
ได้ยินว่า ในเวลาที่พระผู้มีพระภาคเจ้า แวดล้อมด้วยหมู่ภิกษุ เสด็จเข้าเมืองสาเกตเพื่อบิณฑบาตพราหมณ์แก่ชาวเมืองสาเกตุผู้หนึ่ง กำลังเดินไปนอกพระนคร เห็นพระทศพลระหว่างประตู ก็หมอบลงแทบพระยุคลบาท ยึดข้อพระบาททั้งคู่ไว้แน่น พลางกราบทูลว่า พ่อมหาจำเริญ ธรรมดาว่าบุตรต้องปรนนิบัติมารดาบิดาในยามแก่มิใช่หรือ เหตุไรพ่อจึงไม่แสดงตนแก่เราตลอดมานี้ เราเห็นพ่อก่อนแล้ว แต่พ่อจงมาพบกับมารดา แล้วพาพระศาสดาไปเรือนของตน
พระศาสดาเสด็จไปที่เรือนของพราหมณ์ ประทับนั่งเหนืออาสนะที่เขาจัดไว้ พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ ฝ่ายพราหมณีได้ข่าวว่า บัดนี้บุตรของเรามาแล้ว ก็มาหมอบแทบบาทยุคลของพระบรมศาสดา แล้วร่ำไห้ว่า พ่อคุณทูนหัว พ่อไปไหนเสียนานถึงปานนี้ ธรรมดาบุตรต้องบำรุงมารดาบิดายามแก่มิใช่หรือ แล้วบอกให้บุตรธิดา พากันมาไหว้ ด้วยคำว่า พวกเจ้าจงไหว้พี่ชายเสีย พราหมณ์ทั้งสองผัวเมียดีใจ ถวายมหาทาน
พระศาสดาครั้นเสวยเสร็จแล้ว ก็ตรัสชราสูตร แก่พราหมณ์แม้ทั้งสองเหล่านั้น ในเวลาจบพระสูตร คนแม้ทั้งสองก็ตั้งอยู่ในพระอนาคามิผล พระศาสดาเสด็จลุกจากอาสนะเสด็จไปพระวิหารอัญชนวันตามเดิม พวกภิกษุนั่งประชุมกันในโรงธรรม สนทนากันขึ้นว่า ผู้มีอายุทั้งหลาย พราหมณ์ก็รู้อยู่ว่า พระบิดาของพระตถาคต คือพระเจ้าสุทโธทนะ พระมารดาคือพระนางมหามายาทั้ง ๆ ที่รู้อยู่ ก็ยังบอกพระตถาคตกับนางพราหมณีว่า บุตรของเราถึงพระศาสดาก็ทรงรับ ข้อนี้เป็นเพราะเหตุไรหนอ ?
พระศาสดาทรงสดับถ้อยคำของภิกษุเหล่านั้น แล้วตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พราหมณ์ทั้งสองเรียกบุตรของตน นั่นแหละว่าบุตร แล้วทรงนำอดีตนิทานมาตรัสว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พราหมณ์นี้ในอดีตกาล ได้เป็นบิดาของเราตลอด ๕๐๐ ชาติ เป็นอาของเรา ๕๐๐ ชาติ เป็นปู่ของเรา ๕๐๐ ชาติ ติดต่อกันไม่ขาดสาย แม้นางพราหมณีนี้เล่า ก็ได้เป็นมารดาของเรา ๕๐๐ ชาติ เป็นน้า ๕๐๐ ชาติ เป็นย่า ๕๐๐ ชาติ ติดต่อกันไม่ขาดสายเลยดุจกัน เราเจริญแล้วในมือของพราหมณ์ ๑,๕๐๐ ชาติ จำเริญแล้วในมือของนางพราหมณี ๑,๕๐๐ ชาติอย่างนี้ เป็นอันทรงตรัสถึงชาติในอดีต ๓,๐๐๐ ชาติ” ครั้นตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว จึงตรัส พระคาถานี้ ความว่า :
"ใจจดจ่ออยู่ในผู้ใด แม้จิตเลื่อมใสในผู้ใด
บุคคลพึงคุ้นเคยสนิทสนมแม้ในผู้นั้น
ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อน" ดังนี้
พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาอย่างนี้แล้ว ทรงประชุมชาดกว่า
พราหมณ์และพราหมณีในครั้งนั้น ได้มาเป็นพราหมณ์และนางพราหมณีคู่นี้ นั่นแล
ฝ่ายบุตร ได้แก่เราตถาคตนั่นเอง ฉะนี้แล.
จบ สาเกตชาดก