พระพุทธศักดิ์สิทธิ์ วัดโพรงจระเข้
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
สืบทอดพระพุทธศาสนา
นำทางสู่การพ้นทุกข์

 

ขุททกนิกายภาค ๑

เอกนิบาต

๑๑. ปโรสตวรรค

อุทัญจนีชาดก

ว่าด้วยหญิงโจร

         พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภการเล้าโลมของถุลกุมาริกา (หญิงสาวเจ้าเนื้อ) ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.

         เนื้อเรื่องจักแจ่มแจ้งใน จูฬนารทกัสสปชาดก เตรสนิบาต นั่นแล ก็พระศาสดาตรัสถามภิกษุนั้นว่า

         “ดูก่อนภิกษุ ได้ยินว่า เธอกระสันจริงหรือ ?”

         เมื่อภิกษุนั้นกราบทูลว่า “จริงพระเจ้าข้า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า”

         ตรัสถามต่อไปว่า “จิตของเธอปฏิพัทธ์ในอะไรเล่า ?”

         เธอกราบทูลว่า “ในหญิงสาวเจ้าเนื้อนางหนึ่ง พระเจ้าข้า”

         ลำดับนั้น พระบรมศาสดาจึงตรัสกะภิกษุนั้นว่า

         “ดูก่อนภิกษุ นางนี้ เคยทำความฉิบหายให้เธอ แม้ในกาลก่อนเธออาศัยนางนี่ ถึงความเสื่อมจากศีล เที่ยวซบเซาไป ต่ออาศัยบัณฑิตจึงได้ความสุข” แล้วทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้ :

         ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในพระนครพาราณสี ในครั้งนั้น พระโพธิสัตว์ ถือผลาผลมาในเวลาเย็น เปิดประตูบรรณศาลาเข้าไป ได้พูดคำนี้กะดาบสน้อยผู้บุตรว่า พ่อเอ๋ย ในวันอื่น ๆ เจ้าหักฟืน ตักน้ำดื่มไว้ ก่อไฟไว้ แต่วันนี้ไม่ทำแม้สักอย่างเดียว เหตุไรเล่าเจ้าจึงมีหน้าเศร้า นั่งซบเซาอยู่

         ดาบสน้อย ตอบว่า ข้าแต่พ่อ เมื่อท่านพ่อไปหาผลาผล หญิงคนหนึ่ง มาเล้าโล้มกระผมชวนให้ไปด้วย แต่กระผมผัดไว้ว่า ต่อท่านพ่ออนุญาต แล้วจึงจักไป จึงยังไม่ได้ไป กระผมให้นางนั่งรออยู่ที่ตรงโน้น แล้วกลับมา คราวนี้กระผมจักไปละครับ ท่านพ่อ

         พระโพธิสัตว์ ทราบว่า เราไม่อาจเหนี่ยวรั้งเขาไว้ได้ จึงอนุญาต โดยสั่งว่า ถ้าเช่นนั้นจงไปเถิดพ่อ แต่เขาพาเจ้าไปแล้ว เมื่อใด นางอยาก กินปลา กินเนื้อ หรือมีความต้องการเนยเกลือ และข้าวสาร เป็นต้น เมื่อนั้น นางจักเคี่ยวเข็ญเจ้าว่า จงไปหาสิ่งนี้ ๆ มาให้ ตอนนั้น เจ้าจงนึกถึงคุณของพ่อ แล้วพึงหนีมาที่นี่เถิด

         ดาบสน้อย ได้ไปถิ่นมนุษย์กับนาง ครั้งนั้นนางก็ให้เขาตกอยู่ในอำนาจของตน ต้องการสิ่งใด ๆ ก็ใช้ให้ไปหาสิ่งนั้น ๆ มา เช่นสั่งว่า จงไปหา เนื้อมา จงไปหาปลามา คราวนั้น เขาก็ได้คิดว่า นางนี่เคี่ยวเข็ญ ให้เราทำอย่างกับเป็นทาสกรรมกรของตน จึงหนีกลับมาสู่สำนักของบิดา ไหว้บิดาแล้ว ทั้ง ๆ ที่ยืนอยู่นั่นแหละ กล่าวคาถานี้ ความว่า :

         ท่านพ่อขอรับ ผมผู้เคยเป็นอยู่สบายในสำนักของท่านพ่อ ถูกหญิงนั้นทำให้เดือดร้อน.มันบังคับ เคี่ยวเข็ญ ต้องการจะกินสิ่งใด ๆ ก็เคี่ยวเข็ญเอาสิ่งนั้น มันต้องการน้ำมัน หรือเกลืออย่างหนึ่งอย่างใด จะ เคี่ยวเข็ญขอสิ่งนั้น ๆ ทุกอย่าง ให้นำมาให้ เหมือนเป็นทาส เป็นกรรมกร เหตุนั้น กระผมจึงบอกเล่ากล่าวโทษของมันไว้.

         ครั้งนั้นพระโพธิสัตว์ก็ปลอบดาบสน้อยนั้นว่า ช่างมันเถิด พ่อ มาเถิด เจ้าจงเจริญ เมตตากรุณาไว้เถิด แล้วบอกพรหมวิหาร ๔ ให้ บอกกสิณบริกรรมให้ ไม่นานนักดาบสน้อยนั้น ก็ยังอภิญญาและสมาบัติให้เกิดได้ เจริญพรหมวิหาร แล้วไปบังเกิดในพรหมโลก พร้อมด้วยบิดา.

         พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจจะ ในเวลาจบสัจจะ ภิกษุนั้นดำรงในโสดาปัตติผล ทรงประชุมชาดกว่า

         ถุลกุมาริกาในครั้งนั้น ได้มาเป็นถุลกุมาริกา ในบัดนี้

         ดาบสน้อยได้มาเป็นภิกษุผู้กระสัน

         ส่วนดาบสผู้บิดา ได้มาเป็นเราตถาคต ฉะนี้แล.

จบ อุทัญจนีชาดก

อรรถกถาชาดกพระเจ้า 547 พระชาติ

เชิญร่วมบุญ