Thai Chinese (Traditional) English French Italian Portuguese Russian
พระพุทธศักดิ์สิทธิ์ วัดโพรงจระเข้
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
สืบทอดพระพุทธศาสนา
นำทางสู่การพ้นทุกข์

 

ขุททกนิกายภาค ๑

เอกนิบาต

๔.กุลาวกวรรค

มัจฉชาดก

ว่าด้วยความหึงหวง

พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในพระวิหารเชตวัน ทรงปรารภการประเล้าประโลมของภรรยาเก่า จึงตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.

ความพิสดารว่า ในกาลนั้น พระศาสดาตรัสถามภิกษุนั้นว่า

“ดูก่อน ภิกษุ ได้ยินว่าเธอเป็นผู้กระสันจะสึกจริงหรือ ?” 

ภิกษุนั้นกราบทูลว่า “ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า จริง พระเจ้าข้า”

พระศาสดาตรัสถามว่า “เพราะเหตุไร เธอจึงเป็นผู้กระสันจะสึก ?” 

ภิกษุนั้นกราบทูลว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภรรยาเก่าของข้าพระองค์เป็นผู้มีรสมืออร่อย ข้าพระองค์ไม่อาจละนาง พระเจ้าข้า”

ลำดับนั้น พระศาสดาได้ตรัสกะภิกษุนั้นว่า “ดูก่อนภิกษุ หญิงนั่นเป็นผู้กระทำความฉิบหายแก่เธอ แม้ในกาลก่อน เธอเมื่อจะถึงความตายก็เพราะอาศัยหญิงนั่น แต่พ้นจากความตายเพราะอาศัยเรา” แล้วทรงนำเรื่องอดีตนิทานมาแสดงดัง ต่อไปนี้

ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในนครพาราณสี พระโพธิสัตว์ได้เป็นปุโรหิตของพระเจ้าพรหมทัตนั้น ในกาลนั้น พวกชาวประมงได้ทอดแหอยู่ในแม่น้ำ ครั้งนั้น มีปลาใหญ่ตัวหนึ่งมาเล่นอยู่กับนางปลาของตนด้วยความยินดี นางปลานั้นว่ายไปข้างหน้าของปลาใหญ่นั้น ได้กลิ่นแห จึงเลี่ยงแหไป ส่วนปลาใหญ่นั้นติดในกามเป็นปลาโลเล ได้เข้าไปยังท้องแหนั่นเอง พวกชาวประมงรู้ว่าปลาใหญ่นั้นเข้าไปติดแห จึงยกแหขึ้นจับเอาปลาโยนไปบนหลังทราย คิดว่าจักปิ้งปลานั้นกิน จึงก่อไฟถ่าน เสี้ยมไม้แหลม ปลาคร่ำครวญอยู่ว่า การย่างบนถ่านไฟหรือการเสียบด้วยไม้แหลมนั้น หรือทั้งสองอย่างนั่นจะไม่ทำให้เราลำบากใจเลย แต่การที่นางปลานั้นเสียใจเพราะคิดว่าเรานั้นได้ไปหานางปลาตัวอื่น ข้อนี้เท่านั้นที่ทำให้เราลำบากใจ จึงกล่าวคาถานี้ว่า

สมัยนั้น ปุโรหิตอันทาสแวดล้อมมายังฝั่งแม่น้ำเพื่อจะอาบน้ำ ก็ปุโรหิตนั้นเป็นผู้รู้เสียงร้องของสัตว์ทุกชนิด ด้วยเหตุนั้น ปุโรหิตนั้นได้ฟังปลาคร่ำครวญจึงคิดว่า ปลานี้คร่ำครวญเพราะกิเลส ก็ปลานี้มีจิตกระสับกระส่าย อย่างนี้ ตายไปจักบังเกิดในนรกเท่านั้น เราจักเป็นที่พึ่งอาศัยของปลานี้ ปุโรหิตนั้นจึงไปหาพวกชาวประมงแล้วกล่าวว่า

“ท่านผู้เจริญทั้งหลาย พวกท่านไม่ให้ปลาเราเพื่อทำกับข้าว แม้สักวัน”

ชาวประมงทั้งหลายกล่าวว่า “นายท่านพูดอะไร ท่านจงเลือกเอาปลาที่ท่านชอบใจไปเถิด”

ปุโรหิตกล่าวว่า “เราไม่มีการงานกับผู้อื่น พวกท่านจงให้เฉพาะปลาตัวนี้เท่านั้น”

พวกชาวประมง กล่าวว่า “เอาไปเถอะนาย”

พระโพธิสัตว์เอามือทั้งสองจับปลานั้นไปนั่งที่ฝั่งแม่น้ำ กล่าวสอนว่า “ปลาผู้เจริญ วันนี้ ถ้าเราไม่เห็นเจ้า เจ้าจะต้องถึงแก่ความตาย ตั้งแต่บัดนี้ไป เจ้าอย่าได้ตกอยู่ในอำนาจของกิเลสเลย” แล้วปล่อยไปในน้ำ ตนเองเข้าไปยังนคร.

พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจจะทั้งหลาย ในเวลาจบสัจจะ ภิกษุผู้กระสันจะสึกตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล ฝ่ายพระศาสดาได้ทรงประชุมชาดกว่า

นางปลาในครั้งนั้น ได้เป็นภรรยาเก่าในบัดนี้

ปลาในครั้งนั้น ได้เป็นภิกษุผู้กระสันในบัดนี้

ส่วนปุโรหิตในครั้งนั้น ได้เป็นเราเองแล.

 

อรรถกถาชาดกพระเจ้า 547 พระชาติ

เชิญร่วมบุญ