ขุททกนิกายภาค ๑
เอกนิบาต
๑๑. ปโรสตวรรค
มิตตวินทชาดก
โทษผู้ลุอำนาจความปรารถนา
พระศาสดา เมื่อประทับอยู่ ณ พระเชตวันมหาวิหาร ทรงปรารภภิกษุผู้ว่ายากรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.
เรื่องราวพิสดารมีตามนัยที่กล่าวแล้วในมิตตวินทชาดกในหนหลัง ส่วนชาดกนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดในกาลแห่งพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า กัสสปะ ก็ในกาลครั้งนั้น เนรยิกสัตว์ตนหนึ่ง ทูนจักรกรดไว้บนศีรษะ หมกไหม้อยู่ในนรก ถามพระโพธิสัตว์ว่า
“ท่านเจ้าข้า ข้าพเจ้าได้กระทำบาปกรรมอะไรไว้เล่าหนอ? ”
พระโพธิสัตว์ กล่าวว่า “เจ้าได้กระทำบาปกรรมนี้ๆ” แล้วกล่าวคาถา ความว่า :
"ผู้ที่มีความปรารถนาเกินส่วน มีอยู่ ๔
ก็ต้องการ ๘ มี ๘ ก็ต้องการ ๑๖มี ๑๖ ก็ต้องการ
๓๒ บัดนี้มาได้รับกงจักรกรด กรงจักกรดพัด
อยู่เหนือศีรษะ ของคนผู้ลุอำนาจความปรารถนา"
ดังนี้.
อธิบายว่า เจ้าได้เวมานิกเปรต ๔ นางในระหว่างสมุทร ยังไม่พอใจด้วยนางเหล่านั้น จึงเดินมุ่งต่อไปข้างหน้า ด้วยปรารถนาเกินส่วน ได้ครอบครองนางทั้ง ๘ อีก แม้ในบททั้งสองที่เหลือก็มีนัยนี้ เหมือนกัน.
เจ้าไม่พอใจด้วย ลาภของตนอย่างนี้ ยังปรารถนาเกินส่วน คือต้องการต่อไปไม่รู้หยุด มุ่งลาภข้างหน้าต่อไป คราวนี้จึงมาโดนจักรกรดนี้ เจ้านั้นถูกตัณหาความทะยานอยากเข้าไปตัดรอนเสียแล้ว จักรกรดจึงพัดผันบนหัวเจ้า
ครั้นกล่าวอย่างนี้แล้ว ก็กลับไปสู่เทวโลกของตน แม้เนรยิกสัตว์นั้น เมื่อบาปของตนสิ้นแล้ว ก็ไปตามยถากรรม.
พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า
มิตตวินทกะในครั้งนั้น ได้มาเป็นภิกษุผู้ว่ายาก
ส่วนเทวบุตรได้มาเป็นเราตถาคต ฉะนี้แล.
จบ มิตตวินทชาดก