
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒
อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
กูฏสูตรที่ ๑
[๕๔๙] ครั้งนั้นแล อนาถบิณฑิกคฤหบดีได้เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนแห่งหนึ่งครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสกะเขาว่า ดูกรคฤหบดี เมื่อบุคคลไม่รักษาจิต แม้กายกรรมก็เป็นอันไม่รักษา แม้วจีกรรมก็เป็นอันไม่รักษา แม้มโนกรรมก็เป็นอันไม่รักษา เมื่อเขาไม่รักษากายกรรม ไม่รักษาวจีกรรม ไม่รักษามโนกรรม แม้กายกรรมก็เป็นอันชุ่มแล้ว แม้วจีกรรมก็เป็นอันชุ่มแล้ว แม้มโนกรรมก็เป็นอันชุ่มแล้ว เมื่อเขามีกายกรรมชุ่ม มีวจีกรรมชุ่ม มีมโนกรรมชุ่ม แม้กายกรรมก็เป็นของเสีย แม้วจีกรรมก็เป็นของเสีย แม้มโนกรรมก็เป็นของเสีย เมื่อเขามีกายกรรมเสีย มีวจีกรรมเสีย มีมโนกรรมเสีย การตายก็ไม่ดี การทำกาละก็ไม่งาม ดูกรคฤหบดี เปรียบเหมือนเมื่อเรือนซึ่งมุงไว้ไม่ดี แม้ยอดเรือนก็เป็นอันไม่ได้รักษา แม้ไม้กลอนก็เป็นอันไม่ได้รักษา แม้ฝาเรือนก็เป็นอันไม่ได้รักษา แม้ยอดเรือนก็เป็นอันถูกฝนรั่วรด แม้ไม้กลอนก็เป็นอันถูกฝนรั่วรด แม้ฝาเรือนก็เป็นอันถูกฝนรั่วรด แม้ยอดเรือนก็เป็นของผุ แม้ไม้กลอนก็เป็นของผุ แม้ฝาเรือนก็เป็นของผุ ฉันใด ดูกรคฤหบดี เมื่อบุคคลไม่รักษาจิตไว้ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ฯลฯ ความตายก็ไม่ดี การทำกาละก็ไม่งาม ดูกรคฤหบดี เมื่อบุคคลรักษาจิตไว้ แม้กายกรรมก็เป็นอันรักษา แม้วจีกรรมก็เป็นอันรักษา แม้มโนกรรมก็เป็นอันรักษา เมื่อเขารักษากายกรรม รักษาวจีกรรม รักษามโนกรรม แม้กายกรรมก็เป็นอันไม่ชุ่ม แม้วจีกรรมก็เป็นอันไม่ชุ่ม แม้มโนกรรมก็เป็นอันไม่ชุ่ม เมื่อเขามีกายกรรมไม่ชุ่ม มีวจีกรรมไม่ชุ่ม มีมโนกรรมไม่ชุ่ม แม้กายกรรมก็เป็นอันไม่เสีย แม้วจีกรรมก็เป็นอันไม่เสีย แม้มโนกรรมก็เป็นอันไม่เสีย เมื่อเขามีกายกรรมไม่เสีย มีวจีกรรมไม่เสีย มีมโนกรรมไม่เสีย ความตายก็ดี การทำกาละก็งาม ดูกรคฤหบดี เปรียบเหมือนเมื่อเรือนซึ่งมุงไว้เรียบร้อย แม้ยอดเรือนก็เป็นอันรักษา แม้ไม้กลอนก็เป็นอันรักษา แม้ฝาเรือนก็เป็นอันรักษา แม้ยอดเรือนก็ไม่ถูกฝนรั่วรด แม้ไม้กลอนก็ไม่ถูกฝนรั่วรด แม้ฝาเรือนก็ไม่ถูกฝนรั่วรด แม้ยอดเรือนก็เป็นของไม่ผุ แม้ไม้กลอนก็เป็นของไม่ผุ แม้ฝาเรือนก็เป็นของไม่ผุ ฉันใด ดูกรคฤหบดี เมื่อบุคคลรักษาจิตไว้ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน ฯลฯ ความตายก็ดี การทำกาละก็งาม ฯ