
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒
อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
สิกขาสูตรที่ ๒
[๕๓๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิกขา ๓ นี้ ๓ เป็นไฉน คือ อธิศีลสิกขา ๑ อธิจิตตสิกขา ๑ อธิปัญญาสิกขา ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อธิศีลสิกขาเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศีล ฯลฯ สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าอธิศีลสิกขา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อธิจิตตสิกขาเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม ฯลฯ บรรลุจตุตถฌาน ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่าอธิจิตตสิกขา ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อธิปัญญาสิกขาเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้เรียกว่า อธิปัญญาสิกขา ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิกขา ๓ นี้แล ฯ
ภิกษุผู้มีความเพียร มีเรี่ยวแรง มีปัญญา เพ่งพินิจ มีสติ
คุ้มครองอินทรีย์ พึงครอบงำทั่วทุกทิศ ด้วยอัปปมาณสมาธิ
ประพฤติทั้งอธิศีล อธิจิต และอธิปัญญา เมื่อก่อนฉันใด
ภายหลังก็ฉันนั้น ภายหลังฉันใด เมื่อก่อนก็ฉันนั้น เบื้องต่ำ
ฉันใด เบื้องบนก็ฉันนั้น เบื้องบนฉันใด เบื้องต่ำก็ฉันนั้น
ในกลางวันฉันใด ในกลางคืนก็ฉันนั้น ในกลางคืนฉันใด
ในกลางวันก็ฉันนั้น ภิกษุเช่นนั้น บัณฑิตกล่าวว่า เป็น
นักศึกษา เป็นนักปฏิบัติ และเป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย
ดี ภิกษุเช่นนั้น บัณฑิตกล่าวว่า เป็นผู้ตรัสรู้ชอบ เป็น
นักปราชญ์ เป็นผู้ถึงที่สุดของการปฏิบัติในโลก ท่านผู้
ประกอบด้วยวิมุตติอันเป็นที่สิ้นตัณหา ย่อมมีจิตหลุดพ้นจาก
สังขารธรรม เพราะวิญญาณดับสนิท เหมือนความดับของ
ประทีป ฉะนั้น ฯ
คุ้มครองอินทรีย์ พึงครอบงำทั่วทุกทิศ ด้วยอัปปมาณสมาธิ
ประพฤติทั้งอธิศีล อธิจิต และอธิปัญญา เมื่อก่อนฉันใด
ภายหลังก็ฉันนั้น ภายหลังฉันใด เมื่อก่อนก็ฉันนั้น เบื้องต่ำ
ฉันใด เบื้องบนก็ฉันนั้น เบื้องบนฉันใด เบื้องต่ำก็ฉันนั้น
ในกลางวันฉันใด ในกลางคืนก็ฉันนั้น ในกลางคืนฉันใด
ในกลางวันก็ฉันนั้น ภิกษุเช่นนั้น บัณฑิตกล่าวว่า เป็น
นักศึกษา เป็นนักปฏิบัติ และเป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย
ดี ภิกษุเช่นนั้น บัณฑิตกล่าวว่า เป็นผู้ตรัสรู้ชอบ เป็น
นักปราชญ์ เป็นผู้ถึงที่สุดของการปฏิบัติในโลก ท่านผู้
ประกอบด้วยวิมุตติอันเป็นที่สิ้นตัณหา ย่อมมีจิตหลุดพ้นจาก
สังขารธรรม เพราะวิญญาณดับสนิท เหมือนความดับของ
ประทีป ฉะนั้น ฯ