
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒
อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
รถการวรรคที่ ๒
ญาตกสูตร
[๔๕๐] ๑๑. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีชื่อเสียงประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ย่อมปฏิบัติเพื่อมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อมิใช่สุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อความพินาศแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ ชักชวนในกายกรรมที่ไม่สมควร ๑ ชักชวนในวจีกรรมที่ไม่สมควร ๑ ชักชวนในธรรมที่ไม่สมควร ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีชื่อเสียงประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล ย่อมปฏิบัติเพื่อมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อมิใช่สุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อความพินาศแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อมิใช่ประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีชื่อเสียงประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ย่อมปฏิบัติเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อประโยชน์แก่ชนหมู่มาก เพื่อเกื้อกูล เพื่อสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ ชักชวนในกายกรรมที่สมควร ๑ ชักชวนในวจีกรรมที่สมควร ๑ ชักชวนในธรรมที่สมควร ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีชื่อเสียงประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล ย่อมปฏิบัติเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อประโยชน์แก่ชนหมู่มาก เพื่อเกื้อกูล เพื่อสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีชื่อเสียงประกอบด้วยธรรม ๓ ประการ ย่อมปฏิบัติเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อประโยชน์แก่ชนหมู่มาก เพื่อเกื้อกูล เพื่อสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ธรรม ๓ ประการเป็นไฉน คือ ชักชวนในกายกรรมที่สมควร ๑ ชักชวนในวจีกรรมที่สมควร ๑ ชักชวนในธรรมที่สมควร ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีชื่อเสียงประกอบด้วยธรรม ๓ ประการนี้แล ย่อมปฏิบัติเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อประโยชน์แก่ชนหมู่มาก เพื่อเกื้อกูล เพื่อสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ